Google wave กำลังจะปิดตัวใน 31 April 2012

เช้าวัน พฤหัส ที่ 24 เป็นปกติ ตื่นมาไปทำงาน part time เสร็จ ก็กลับเข้ามา office ปกติ เปิดเมลล์ เช็ก ว่ามีอะไรบ้าง  อ่านมาเรื่อย ๆ เจอ อีเมลล์อยู่ อีก 1 ฉบับ บ๊ะเจ้า..

Dear Wavers,

More than a year ago, we announced that Google Wave would no longer be developed as a separate product. At the time, we committed to maintaining the site at least through to the end of 2010. Today, we are sharing the specific dates for ending this maintenance period and shutting down Wave. As of January 31, 2012, all waves will be read-only, and the Wave service will be turned off on April 30, 2012. You will be able to continue exporting individual waves using the existing PDF export feature until the Google Wave service is turned off. We encourage you to export any important data before April 30, 2012.

If you would like to continue using Wave, there are a number of open source projects, including Apache Wave. There is also an open source project called Walkaround that includes an experimental feature that lets you import all your Waves from Google. This feature will also work until the Wave service is turned off on April 30, 2012.

For more details, please see our help center.

Yours sincerely,

 แจ้งมาว่า Google Wave กำลังจะ ปิดตัวลงไปอีกแล้ว ใน Product ของ Google หลังจากก่อนหน้านี้ Google Buzz ก็ได้ประกาศปิดตัวลงไปแล้ว  โดย Google แจ้งว่า จะเริ่มทำการปิด project  หยุดทุกกิจกรรม ของ Wave ในวันที่ 31 Jan 2012 นี้  และก็จะเปิดให้สามารถอ่านได้อย่างเดียวเท่านั้น  และเราจะสามารถ นำข้อมูลต่าง ๆ ที่อยู่ Google Wave ออกมาได้ในรูปแบบ PDF

เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงวันที่  31 April 2012  Wave Service ต่าง ๆ ของ Google ก็จะทำการปิดตัวลงอย่าง ถาวรครับ เห้ออ....มันก้อเป็นทำมะดา อ่ะครับ มีเกิดก็ต้องมีจาก.. อยู่ที่ว่า จะจากไปก่อน ถึงเวลาที่เหมาะสม รึป่าว...เป็นเหมือนกันการ ปล่อยออกมาให้ได้ทดสอบ กันว่า มันเหมาะสมมั้ย กับ โลกปัจจุบันนี้

คร่าว ๆ ในตอนนี้ Product ของ Google ก็ได้ปิดตัวลงไปแล้ว จากที่ผมรู้และตามข่าวน่ะครับ
- Google Buzz
- Google Wave
- ??

และ Service ต่อไปหละ หรือ จะเป็น Google+??

เมื่อเกิดความรู้สึก อยากได้ Canon 600D Preview [550D VS 600D]

หลังจากไปเที่ยวกลับมา และหลังจากที่ห่างจากการถ่ายภาพไปนานเหมือนกันครับ ได้กลับมาจับอีกครั้งกับ Canon 550D ในทริปที่ไปเที่ยว เชียงใหม่ อาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้ความรู้สึกอยากจะถ่ายภาพกลับมาอีกครั้ง

ลองนั่งเปิดเว็บ อัพเดทข่าวเกี่ยวกับกล้อง ว่ามีอะไรเพิ่มเติม เปลี่ยนแปลงบ้าง โฟกัสแรกก้อ ของ Canon ก่อนเลยครับ มันก็แล้วแต่คนจะชอบน่ะครับ ส่วนตัว ผมชอบ Canon น่ะ ไม่มีปรับ อะไรมากมาย ก็สามารถถ่ายภาพที่เราต้องการได้ง่าย ๆ ด้วยฟังก์ชันที่มีมาในตัวกล้อง อย่างครบครัน

คุยกับเพื่อน เพื่อนมันบอกอยากจะเปลี่ยนกล้องแหละ จาก 550D เป็น 600D ไอ้เราก้ออยากจะได้บ้างก้อเลยลองหา อ่าน ว่ามันจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมบ้าง จากที่อ่านรีวิว คร่าว ๆ ก็เปลี่ยนเยอะพอประมาณ  การเปลี่ยนของตัว 600D 0ะเป็นการเพิ่มฟีเจอร์ที่กล้องเลขสองหลักมีแต่สามหลักยังไม่มีเข้ามา
ก่อนอื่นเราลองไปดู สเปคและคุณสมบัติมันก่อนดีกว่าครับ


Canon 600D Spec and Features

• Sensor DIGIC 4 ความละเอียด 18 ล้านพิกเซล (จะได้ภาพขนาดสูงสุดคือ 5184 * 3456)
• สามารถเลือกถ่ายภาพได้ทั้งแบบ RAW, JPEG
• ถ่ายวิดีโอได้ความละเอียดสูงสุดที่ 1920*1080 (full hd) ที่เฟรมเรต 30, 24 และ 16 ตามลำดับ สามารถถ่ายต่อเนื่องได้สูงสุดที่ 29 นาที 59 วินาที (ก็ครึ่งชั่วโมง นั่นละ)
• โฟกัส 9 จุด วัดแสง 63 โซน
• ISO 100 – 12800
• โหมดถ่ายภาพ Basic+
• ถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 3.7 รูปต่อวินาที (JPEG) ติดต่อได้สูงสุด 34 ภาพในคราวเดียว
• จอขนาด 3.0 อัตราส่วน 3:2 แบบหมุนและพับได้
• สามารถสั่งงานแฟลชแบบไร้สายได้ในตัว
• น้ำหนัก 570 กรัม

ส่วนนี้จะเป็นด้านหน้าของ ตัวกล้อง

 

จากด้านหน้าจะเห็นได้ว่า 600D มีการเปลี่ยนแปลงบ้าง ตั้งแต่ปุ่มควบคุมแบบหมุน รวมไปถึงมีกริปหนังทั้งสองด้าน นอกจากนั้นจะยังคงคล้ายๆ ของเดิมครับ

ด้านหลังเปลี่ยนไปพอสมควร มีการออกแบบปุ่มใหม่ เปลี่ยนชื่อจากปุ่ม Display เป็น Info มีจอแบบพับได้ขนาด 3.0 นิ้ว ปุ่มควบคุมสี่ทิศทางปรับให้มีขนาดเล็กลงเพื่อป้องกันการไปกดโดยไม่ได้ตั้งใจ นอกจากนี้ยังเปลี่ยนการออกแบบเล็กน้อยเพื่อให้จับได้ถนัดขึ้น
ส่วนขนาดของ 600D นั้นโดยรวมจะพอๆ กันกับ 550D แต่จุดที่สังเกตได้คือมีความหนาที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเกือบ 1 เซนติเมตรกันเลย รวมถึงน้ำหนักก็มากกว่าเดิม 40 กรัม โดยรวมการเปลี่ยนแปลงผมคิดว่าน่าจะทำให้จับได้ถนัดมือขึ้นครับ
สรุปฟีเจอร์ที่ต่างกันนะครับ

• จอพับได้
• มีโหมด Scene Intelligence ถ่ายภาพวิวได้ง่ายกว่าเดิม
• มีโหมด Basic+ ช่วยในโหมดถ่ายภาพวิว
• ตอนเล่นภาพนิ่ง สามารถใส่เอฟเฟคต่างๆ ได้
• สามารถเลือกอัตราส่วนภาพได้หลากหลายกว่าเดิม
• สั่งแฟลชแบบไร้สายได้จากหัวกล้องเลย
• โหมดวิดีโอถ่ายภาพนิ่งได้
• Auto Lighting Optimizer ปรับได้ 4 ระดับกันเลย
• เพิ่มระบบให้คะแนนรูปภาพ (เอาไว้จัดอัลบั้ม)
• ใหญ่และหนักกว่าเล็กน้อย

สุดท้ายคือเรื่องราคาก็เท่ากับรุ่นที่ผ่านๆ มาคือหากตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 27,000 บาทครับ อีกไม่นานในไทยน่าจะได้เห็นกัน คงต้องตั้งหน้าตั้งตารอ....

[techblog]

ชามูลแพนด้า หรือ ขี้แพนดา

วันนี้ก้อไปทำงานตามปกติ ครับ เสร็จก้อเลิกจากงาน part time เดินทางไปทำงาน ประจำต่อ ระหว่างก็จะมีจุดแจก หนังสือพิมพ์ ฟรี M2F ครับ เปิดอ่านข่าวข้างใน ไปเจออยู่ข่าวนึงครับ กับ พาดหัวที่ว่า
"โคตรชาแพงที่สุดในโลกจากมูลแพนด้า"  บ๊ะเจ้า มันเกิดอะไรกันขึ้นหละเนี้ยะ

จากกระแสข่าวที่ก่อนหน้านี้มี กาแฟชะมด ที่เค้าว่า กันว่า แก้วกาแฟ เล็ก ๆ ถ้าเป็นกาแฟชะมด แก้วละประมาณ 500-2,000 กว่าบาทมั้ง..ไม่ยืนยันน่ะครับ เพื่อนคนไหนได้ลองแล้ว มาอธิบายให้ผมฟังด้วยน่ะครับ แล้วนี่มาเจอ ทีเด็ดอีกครับ  ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่าของจีน ครับ ทดลองผลิตชาจาก มูลของแพนด้า..มีการยืนยันสรพรรคุณว่า มูลแพนด้า หรือภาษาบ้าน ๆ ที่เราเรียก ว่า "ขี้แพนด้า" นี่แหละครับ อุดมไปด้วย ไฟเบอร์และธาตุอาหารต่าง ๆ  ทำให้ชามีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์

อย่าเพิ่งจะตกตะลึงกันน่ะครับ สนนราคาอยู่ที่ประมาณ 5 หมื่นปอนด์ต่อกิโล ( 2.4 ล้านบาท)  แม่เจ้า...และก็หวังที่จะทำลายราคาของกาแฟ จากมูลชะมดที่แพงที่สุดในโลกอีกด้วย..

ผมก็เป็นคอกาแฟ คนนึงเหมือนกันน่ะครับ ...แต่เท่าที่ดื่มมา ทั้งสองอย่างนี้ ผมยังไม่เคยลิ้มลองน่ะครับ  ฟังชื่อแล้ว ก็อดไม่ไหวเหมือนกันน่ะครับ ไม่ใช่ว่า ไม่ไหวที่จะลองน่ะครับ ไม่ไหว ที่จะหามาดื่มจิง ๆ ครับ..

...มี เพื่อน ๆ คนไหน เคยลิ้มลองมาแล้ว แวะมาบอกรสชาติ มันให้ผมด้วยน่ะครับ ทั้งกาแฟมูลชะมด และ ชามูลแพนด้า มีรสชาติ เป็นอย่างไร ปะแหล่ม ๆ มั้ย...

15.11.11 กดเบิก gpt ครั้งที่ 1

วันนี้ รู้สึกง่วงนอนกมาก ตั้งแต่เช้า ที่เกือบจะตื่นมาทำงานสาย ครับ ประมาณ 06.00 ครับ อันที่จิง ผมทำงาน 2 ที่น่ะครับ เป็น งาน part time และ full time  ครั้งแรกที่คิดจะทำงาน part time ก็กะว่า ทำไปเรื่อย ๆ ไม่อยากจะ ทำหรือเบื่อเมื่อไหร่ ไว้ค่อยเลิก

แต่....ทำไปทำมา ผ่านไป เกือบจะ 2 ปีแหละครับ กับงาน part time ที่ต้องบังคับ ตัวเองตื่น ตอน ตี 04.00 ของทุกวัน (Mon-Fri) น่ะครับ เพื่อ ไปทำงานอีก ที่นึง ก็ใช้เวลาไม่นานครับ ประมาณ 1 ชั่วโมง ก้อเสร็จครับ และหลังจากนั้น  ก็เข้างาน ประจำ ครับ เวลา 09.00 ของ ทุกวันเหมือนกันครับ (09.00 น.) ครับ

ก็ตอบไม่ถูกเหมือนกันครับ ว่าผ่านมันมาได้ยังงัย แต่ก็ อย่างว่าหละครับ ชีวิตไม่สิ้น ก็ต้องดิ้นกันไป เพราะเมื่อเราอยู่ใน กทม. ทุกอริยาบท ของเรา เงินเราจะไหลออกไป ทุกครั้ง...

ผมก้อเลย คิดว่า งานอะไรที่ได้เงิน ผมทำหมดครับ ไม่ว่าจะเป็น งาน part time งานออนไลน์ เพราะผมมองว่ามันเป็นเงิน แม้บางครั้ง ค่าเหนื่อยที่ได้มา มันอาจจะ ไม่คุ้มกับที่เราต้องเหนื่อย ครับ แต่....มันคือ   เงิน

วันนี้ก็เช็คเมลล์ ตามปกติครับ เปิดมาเรื่อย ๆ มีจดหมายจาก Paypal (PP) ครับ แจ้งว่า ได้ทำการ โอนเงินให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว...อิอิ ได้มาอีกแหละ ก็จากเว็บ คลิกครับ กดเบิกครั้งแรก  ขั้นต่ำอยู่ที่  $0.1 ผมได้มา  $0.15*30 = 4.5 บาท ครับ ใช้เวลา ประมาณ 3-5 วันครับ ซึ่งถ้ามันนานกว่านี้ แล้วเรายังคลิก มันก็จะยังได้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ครับ อยู่ที่เรา พอใจจะกดเบิก ค่าเหนื่อยเราออกมาเมื่อไหร่

สิ่งที่ผมได้เล็ก ๆ น้อย ๆ จาก งานออนไลน์ บนอินเทอร์เน็ตนี้ ผมคิดว่า มันเป็นดอกเบี้ย ที่มันเป็นของผมที่ผมต้องได้ ในแต่ละวันครับ ผมจึงทำมันไปเรื่อย ๆ

หลักฐาน จากการโอนเงินจาก เว็บ gptfreeoffers

 

หลักฐานครั้งที่ 1

ตู้เติมเงินออนไลน์ กับ sbuytopup VS siamtopup

วันนี้จะเริ่มยังงัยดี เป็นวันแรกของ สัปดาห์ที่ 3 ของเงิน พฤศจิกายนนี้ ก้อนั่ง ทำงานไปเรื่อย ๆ หาอะไรเล่นไปเรื่อย ๆ คิดอยากจะทำยังไง ถึงจะได้เงินเยอะๆ ก้อหาเงินออนไลน์ ผ่านเน็ตนี่แหละ ครับ ที่ไม่กระทบกับงานประจำที่เราทำ ใช้ช่วงเวลาว่าง ๆ ก้อไปเจอกับ ธุรกิจตัวนึง คือ ตู้เติมเงินออนไลน์อ่ะครับ ก่อนหน้านี่ก้อ ทำตู้เติมเงินออนไลน์ siamtopup ตัวนี้อยู่แล้วอ่ะครับ ก็ถือว่าโอเคน่ะครับ ค่าสมัครแรกเข้า ก้อ 300 บาท (จ่ายครั้งเดียวน่ะครับ) รายเดือน 50 บาทครับ

ต่อเดือน มันก็ไม่แพงมากน่ะครับ พอรับได้ ลูกค้าเติมเงินก้อพนักงานในออฟฟิตนี่แหละครับ ได้ไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ก้อ เก็บเล็ก ผสมน้อยไปเรื่อยครับ เลยคิดว่า ลองมองหาตัวอื่นที่ ตัวรายเดือน มันน้อยกว่านี่ ก้อ มาเจออีกตัวครับ sbuytopup ครับ ตัวนี้ก้อ แรกเข้า 100 บาท (จ่ายครั้งเดียวเหมือนกัน) รายเดือน 30 บาท ครับ ก้อเลยลองเปลี่ยนมาใช้ตัวนี้ดูครับ ลองดูสัก 3 เดือน ดู feedback ว่า เป็นยังงัยบ้าง...ถ้าเพื่อน ๆ สนใจ ก้อ สมัครมาทำธุรกิจ เติมเงินได้เลยน่ะครับ

ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนม่หน้าร้าน จะยิ่งทำธุรกิจตัวนี้รุ่งเลยครับ ไม่มีก้อ ทำได้เหมือนกันครับ วิธีการทำงาน สามารถศึกษาได้จากเว็บ ได้เลยครับ

[siamtopup][sbuytopup]

Multibar ของเล่นตกแต่งหน้าจอ จัดเรียงไอค่อนแบบแนวๆ พร้อมโปรแกรมเสริมมากมาย

มีโปรแกรมน่าใช้มาแนะนำครับ พิเศษสำหรับวันที่ พิเศษอย่างวันนี้  11/11/11 น่ะครับ

Multibar  เป็นโปรแกรมสำหรับช่วยให้เราตกแต่งหน้าจอ หรือช่วยจัดเรียงไอค่อน ให้ดูสวยงามแปลกใหม่ โดยสามารถตกแต่งได้ค่อนข้างหลากหลายและยืดหยุ่น อีกทั้งยังดาวน์โหลดสกินหรือโปรแกรมเสริมมาเพิ่มเติมได้อีกด้วย น่าใช้มากครับ ฟรี !! ตัวอย่างการใช้งาน

และเรายังสามารถจะเลือก พื้นหลัง เพื่อความสวยงามได้อีกนะครับ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม และดาวน์โหลดโปรแกรม Multibar
ได้ที่ http://ticno.com/?c=m&lang=en

[9tana]

ด่วน Firefox 8 ร้อนๆ พร้อมเสิร์ฟ

Firefox 8 เวอร์ชันใหม่มาแล้วอย่างเป็นทางการ แต่บางคนก็ดาวน์โหลดมาก่อนแล้วบนเซิร์ฟเวอร์ FTP ของ Mozilla   สำหรับเวอร์ชันนี้ก็มีทั้งสำหรับ Windows, Mac และ Linux  โดยฟีเจอร์ใหม่ๆ ก็มีเช่น

• ค้นหาข้อความบน Twitter ได้จากแอดเดรสบาร์
• โหลดแท็บได้ตามต้องการตั้งแต่เริ่มเปิดเครื่อง
• แอ็ดออนของ third-party ที่ลงไว้จะถูกปิดเป็นดีฟอล์ตไว้

 ดาวน์โหลดได้จาก [ที่นี่] เลยครับ หรือเข้าเมนู About บน Firefox ก็ได้นะ หรือใครที่ เซตเอาไว้ให้ firefox ดาวน์โหลด อัตโนมัติ ก้อคลิก Next ได้เลยครับ

[zdnet]

Cloud Computing มันเป็นยังไง

ได้ยินมาได้สักระยะนึงแล้วเหมือนกันครับ กับ ศัพท์ใหม่ ที่เรียกว่า Cloud Computing มันเป็นอะไรที่งงอยู่เหมือนกันครับตอนแรก ๆ ที่ได้ยิน ถ้าเราแปลกันตรง ๆ ตัวแบบบ้าน ๆ เลยก็จะแปลว่า "การประมวลผลบนก้อนเมฆ" เอาแล้วงัย..มันคืออะไรหละ

ผมก้อนั่งนิ่งแล้ว คิดไปว่ามันคืออะไรหละ อะไรที่อยากจะรู้ ถาม goo สิ ก้อจัดการเปิด FF ไม่ใช่ มาม่า FF น่ะครับ (Firefox) แล้วใส่คีย์เวิร์ด เลยครับ "Cloud Computing"  ก็ได้กระจ่างแก่ใจตัวเองว่า...

"Cloud Computing คือ แนวคิดด้านบริการโดยใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่ทำงานเชื่อมโยง กัน โดยคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ที่ทำงานร่วมกันนั้น อาจตั้งอยู่ในห้องเดียวกัน หรือห่างไกลกันคนละซีกโลกก็ได้ โดยระบบจะทำงานสอดประสานกันแบบรวมศูนย์ มีข้อดีคือ ลดความซับซ้อน ยุ่งยาก อีกทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานและลดค่าใช้จ่าย

คลาวด์ คอมพิวติ้งยังมีข้อดีอีกคือ สามารถรองรับความต้องการที่หลากหลายกว่า ซึ่งแตกต่างกับเทคโนโลยีกริด คอมพิวติ้ง (Grid Computing) ที่ค่อนข้างเน้นการทำงานเฉพาะด้าน เนื่องจากคลาวด์ คอมพิวติ้ง ทำงานผ่านเทคโนโลยีเสมือน (Virtualization) ระบบจึงไม่ได้ถูกจำกัดในเรื่องของสมรรถนะและขีดความสามารถของคอมพิวเตอร์จาก ระบบต่าง ๆ จึงถือได้ว่า คลาวด์ คอมพิวติ้ง เป็นนวัตกรรมทางด้านดาต้าเซ็นเตอร์รูปแบบใหม่แห่งอนาคตนั่นเอง"

ง่าย ๆ เลยคือ Cloud Computing เราเพียงแค่ระบุความต้องการ (Requirement) ไม่ต้องไปสนใจว่ามันไปทำมายังไง แล้วเด๋วมันจะเอาผลลัพธ์ออกมาให้เราเอง..ซึ่งมันจะประหยัดทรัพยากรเราเยอะมาก ทั้งเวลา งบประมาณในการจัดการ ซึ่งมันน่าจะเป็นทางเลือกที่ดี ในการเอามาใช้งาน

[bkk]

ลาก่อน Google Buzz

Google จัดการปิดตัว Google Buzz ในเร็วๆ นี้แล้ว โดยจะเน้นไปที่ Google+ แทน หลังจากนั้น ผู้ใช้งานจะไม่สามารถโพสต์อะไรลงไปได้ แต่ยังดูเนื้อหาต่างๆ ได้อยู่

และจะดาวน์โหลดออกมาได้โดยใช้ Google Takeout Google จะปิด Code Search ในวันที่ 15 มกราคม รวมถึงการใช้งานทางด้าน social media อื่นๆ ด้วย เช่น Jaiku ซึ่งทำงานคล้ายกับ Twitter ก็จะปิดใช้งานในวันนั้น และ Google Labs ก็จะถูกปิดไปด้วย

Google Buzz ที่เปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2010 ถูกจับตามองว่าจะออกมาปราบ Twitter และ Facebook ได้อยู่หมัด แต่ก็ทำไม่ได้อย่างที่ถูกตั้งความหวังไว้ และกลายเป็นความล้มเหลวแห่งปี 2010 ไปเลย

อย่างไรก็ดี Buzz ถูกมองว่าเป็นตัวกรุยทางให้กับ Google+ ที่สามารถเริ่มต้นได้แรงตามที่ Larry Page, CEO ของ Google ได้อ้างว่ายอดผู้ใช้งานแตะ 40 ล้านคนภายใน 3 เดือน

… ขอไว้อาลัยให้กับผลิตภัณฑ์อีกหนึ่งตัวของ Google ที่ต้องลาจากเราไป

ความคิดเห็น 9maker

จากที่เคยได้ลองใช้ตัว google buzz มา มันก้อเป็น function ที่ใช้ได้ดีน่ะครับ แต่ อาจจะเป็นเพราะ เพื่อน ๆ ผม มันใช้ gmail กันไม่ค่อยจะเยอะนัก (หนักไปทาง hotmail ซะ 90%) เลยทำให้ ผม โพสอะไรไป ไม่มีคนมา follow เพื่อนมันก้อไม่รู้  มันจึงเป็นการยาก

---- ร่วมไว้อาลัยด้วยคนครับ  T T

[mashable][7boot]

gptfreeoffer เว็บคลิกจ่ายจริงขั้นต่ำ0.10ทาง Paypal และ Liberty Reserve

เช้า ๆ แบบนี้ ในวันพุธที่ 9 พ.ย. กับสภาพน้ำท่วม กทม. ชีวิตเรายังไม่สิ้นก็คงต้องดิ้นรนกันไปน่ะครับ  ในเมื่อยาวที่การเดินทางไปทำงาน ต้องเจอกับน้องน้าม ที่แสนจะเน่าและ เหม็น คัน พรั่งพรูไปด้วย เชื้อโรคนานาชนิด ที่ผุดขึ้นมาตามท่อ..ที่คงจะหลีกหนีไม่พ้น

ทำไง เราจะสามารถหาเงินได้เพิ่มเป็น 2 เท่า 2 ทาง คนเรา มักจะมีหลายด้าน เสมอ อย่างที่เพื่อน ๆ เห็นในโฆษณา ของ AIS น่ะครับ ลองตามดูกันในทีวี  คงต้องหาอะไรทำเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวเอง..

งานออนไลน์ ก็น่าสนใจอีกงานนึงน่ะครับ... เพื่อน ๆ หลายคนที่ทำงานออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Amazon, Ebay, ขายของออนไลน์ , เว็บคลิก ฯลฯ  อีกมากน่ะครับ   เราสามารถจะหาเงินจากโลกอินเทอร์เน็ตได้  หลายคนมองว่า งานบางอย่าง ทำแล้วได้เงินน้อย ทำแล้วไม่คุ้ม ให้เวลานาน   แต่อย่าลืมน่ะครับว่า...ถ้าหลาย ๆ ทาง หลาย ๆ งาน จากเล็ก ๆ รวมกันก้อได้เป็นก้อนใหญ่เชียวน่ะครับ

ร่าย มาซะยาว แหละครับ เริ่มด้วย ตัวนี้เลยครับ

      เว็บนี้เป็นเว็บคลิกครับทำได้วันละประมาณ 0.02 กว่าๆทำ 5 วันเบิกได้ครับผมลองกด เบิกแล้วได้ครับใครสนใจลองทำได้ขั้นต่ำ0.10ทางPaypalและLiberty Reserve และทางAP ขั้นต่ำ 1$

สิ่งเล็ก เล็ก ที่ยิ่งใหญ่

        ในสถานการณ์ปัจจุบันนี้ กับมหันตภัย น้ำท่วม ประเทศไทย ที่มีมา ตลอดในช่วงหลายเดือนนี้ ก็มีความคิดที่ว่า ถ้าเรา โดนน้ำท่วม เราจะสร้างรายได้ ให้เกิดขึ้น ยังงัยหละเนี้ยะ ในเมื่อ

-น้ำท่วมเส้นทาง เดินทางไปทำงานไม่ได้
-เราต้อง เตรียมหนีน้ำ ไม่มีที่จะทำเงินให้

      เลยมีความคิดว่า น่าจะเปิด พื้นที่เล็ก ๆ ขึ้นมาอีกสัก 1 พื้นที่ ไว้สำหรับ สร้างรายได้ เพื่อปากท้องของ ตัวแอดมินเอง ไม่อย่างนั้น มีได้อดตายกันแน่ เมื่อน้ำ มันลดลง